ร้านดังจากฮ่องกง ที่แวะไปชิมได้ในกรุงเทพฯ

ร้านดังจากฮ่องกง ก่อนหน้านี้เราได้ชิมกาแฟจากร้านเปิดใหม่ชื่อ NOC ในโครงการ PowWowWow สุขุมวิท 40 ต่อด้วยการมาถึงของ Kam’s Roast ร้านห่านย่างระดับมิชลิน และก็เพิ่งพบว่าที่ซอยทองหล่อ 21 (ใกล้ออฟฟิศ Time Out) มีสาขาที่ 2 ของร้าน Tasty Congee & Noodle Wantun กำลังจะเปิดใหม่เร็วๆ นี้ ซึ่งทุกร้านที่ว่ามา ล้วนแต่เป็นแบรนด์ที่อิมพอร์ตมาจากฮ่องกงทั้งนั้นฃ วันนี้เราเลยอยากชวนคนที่คิดถึงฮ่องกงออกไปกินอาหารอร่อยๆ และดื่มกาแฟคุณภาพดี ใน 5 ร้านดังจากฮ่องกงที่เข้ามาเปิดสาขาในกรุงเทพฯ ให้หายคิดถึงในช่วงที่ยังเดินทางไปไหนไม่ได้แบบนี้

NOC Sukhumvit 40

 

 

ร้านดังจากฮ่องกง ชาวสุขุมวิทที่มักจะใช้ซอยสุขใจ หรือที่เรียกกันติดปากว่าซอยร้านบ้านส้มตำ ลัดจากซอยสุขุมวิท 40 ไปออกสุขุมวิท 42 น่าจะได้สังเกตคอมมูตินี้มอลขนาดจิ๋วสีเทาที่เพิ่งเปิดตัวขึ้นกลางซอย ชื่อ PowWowWow ซึ่งมาในทรงเรียบสีเทาอ่อนแบบสวยมินิมัลต้องชอบ แต่ที่น่าตื่นเต้นสำหรับสายกาแฟ คือร้านกาแฟ NOC สาขาแรกนอกฮ่องกงมาเปิดที่นี่ NOC Sukhumvit 40

ร้าน NOC นี่เป็นหนึ่งในร้านกาแฟดังที่ฮ่องกง ก่อตั้งโดย Benny Leung และ Sam Chan ปัจจุบันมี 7 สาขาและโรงคั่วอยู่ในฮ่องกง และร้านที่ซอยสุขุมวิท 40 นี้ถือว่าเป็นร้านแรกของเขตปกครองฯ โดยชั้นล่างจะเป็นเคาน์เตอร์ขายกาแฟเฮาส์เบลนด์ที่เป็นส่วนผสมของเมล็ดจากโคลอมเบียและจากน่าน ส่วนเมนูที่เขาแนะนำวันที่เราไปคือ Dirty (นมเย็น + ช็อตกาแฟร้อน, 120 บาท) ซึ่งก็ได้อยู่ แต่ที่เราว่าที่ไหวคือกาแฟนมร้อน flat white ที่น่าจะถูกใจคนชอบกาแฟคั่วเข้ม (120 บาท) ส่วนชั้นบนนั้นรับหน้าที่ Slow Bar เสิร์ฟกาแฟดริปสำหรับคนที่อยากใช้เวลานานหน่อยกับกาแฟ

ด้วยความที่ NOC นั้นเป็นตัวย่อของวลี Not Only Coffee ร้านนี้จึง (ตามที่เขาว่า) จริงจังเรื่องอาหารและการออกแบบด้วย โดยเท่าที่เรากวาดตาดูเมนูคืออาหารกินง่ายแบบชาวสุขุมวิทชอบ (เฟรนช์โทสต์ดูน่าอร่อยทีเดียว) ในขณะที่ดีไซน์ร้านนั้นก็สวยกริ๊บแบบที่เราเห็นตาม Dezeen นั่นแล ถูกใจสายชอบงานเต็กแน่นอน

 

Kam’s Roast

 

 

Kam’s Roast ร้านห่านย่างชื่อดังจากฮ่องกง เปิดสาขาแรกในไทยแล้ว ร้านอาหารแห่งนี้ได้รับรางวัลดาวมิชลินหนึ่งดาวเป็นเวลาเจ็ดปีติดต่อกัน (ปี 2015-2021) จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ชาวฮ่องกงจะต้องต่อแถวด้วย ฉันอยากจะลองห่านย่างและเป็ดย่างของร้านนี้อย่างน้อยสักครั้ง สาขาหลักตั้งอยู่บนถนน Hennessy ในเขตหว่านไจ๋ ฮ่องกง และผู้ที่ต้องการรับประทานอาหารที่นั่นจะต้องต่อแถวทันทีหลังจากร้านเปิด ร้านอาหาร Kam’s Roast โดยไม่ต้องจองล่วงหน้าเปิดให้บริการในปี 2014 และได้รับดาวมิชลินในช่วงหกเดือนแรกของการเปิดร้าน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมหลายๆ คนถึงสนใจอาหารของร้านนี้ เพราะมีเคล็ดลับการย่างเนื้อที่สืบทอดกันมาจากครอบครัวมาตั้งแต่รุ่นปู่ (เจ้าของร้านอาหารถังกี่ในตำนาน) ตอนนี้เข้าสู่รุ่นที่สามแล้ว

ช่วยเล่าถึงที่มาของ Cam’s Roast Goose หน่อยค่ะ ไม่ใช่ชื่อร้านอาหารของครอบครัวที่สืบทอดกันมา อย่างไรก็ตาม ร้านอาหารแห่งนี้เป็นร้านอาหารที่ดำเนินการโดยหลานชายของเจ้าของร้านคำฉุยไฟ หลังจากที่รุ่นพ่อของเขาประสบปัญหาในการแบ่งมรดก เขาจึงเปิดร้านอีกครั้งด้วยตัวเอง เรื่องนี้ดังมากในหมู่เกาะฮ่องกง “ตอนนี้ KRG อยู่ในเจเนอเรชันที่ 3 แล้ว เป้าหมายของ KRG คือการมอบประสบการณ์ร้านอาหารที่น่าจดจำให้กับทุกคน ทุกครั้งที่พวกเขามาลองชิม เราจะเสิร์ฟพวกเขาเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันด้วยรสชาติที่สมบูรณ์แบบ” เราจะสานต่อความมุ่งมั่นนี้จากรุ่นสู่รุ่น รุ่น” กล่าวบนเว็บไซต์ของ Kamu’s Roast ซึ่งปัจจุบันมีสาขา 7 แห่งในฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และประเทศอื่นๆ

แน่นอนว่าเมนูที่ต้องลองคือห่านย่างที่ย่างจนหนังกรอบและเนื้อในนุ่มชุ่มฉ่ำ เมนูซิกเนเจอร์ที่คุณควรลองอย่างแน่นอน เนื้ออื่นๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน เช่น เป็ดย่างเนื้อนุ่ม (350-1,288 บาท) หมูสามชั้นหมักน้ำผึ้งหวาน (380-420 บาท) หมูกรอบ (350-380 บาท) ) เป็นชิ้นขนาดพอดีคำ หมูและมัน มีความนุ่มอร่อย ตรงกันข้ามกับหนังกรอบที่อร่อย เรายังมีเมนูอาหารตามสั่งด้วย ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับการแบ่งปันกับครอบครัวของคุณ หากต้องการรับประทานทั้งหมดในคราวเดียวก็สามารถสั่งคู่กับบะหมี่หรือข้าวได้ ราคาเริ่มต้นที่ 220 ถึง 320 บาท ร้านแรกของ Kam’s Roast Thailand เปิดบนชั้น 7 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมีโซนที่นั่งและเลานจ์ภายในร้าน และที่นั่งโต๊ะด้านนอกติดกับโซนครัว ร้านของเราเปิดทุกวันตั้งแต่ 11.00 น. ถึง 22.00 น.

 

Tasty Congee & Noodle Wantun

 

 

ร้านดังจากฮ่องกง ชวนไปชิมโจ๊ก บะหมี่ ติ่มซำและอาหารสไตล์กวางตุ้งหลากหลายเมนู ที่ Tasty Congee & Noodle Wantun ร้านอาหารดังจากฮ่องกงที่เข้ามาเปิดสาขาแรกในไทยที่ สยาม พารากอน เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา และเพิ่งเปิดสาขา 2 ที่ทองหล่อไปเมื่อไม่นาน ใครเป็นนักชิมไม่ต้องลังเล เพราะร้านนี้คือแบรนด์ลูกของ Ho Hong Kee ร้านโจ๊กอายุ 74 ปี ระดับ 1 ดาวมิชลิน ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก Tasty Congee & Noodle Wantun ที่ไทย ได้เชฟบินตรงจากฮ่องกงมาดูแลเรื่องอาหารและวัตถุดิบ และไม่ใช่แค่คนเดียว แต่มากันถึง 6 คน ซึ่งยังไม่นับรวมเชฟประจำสเตชั่นอื่นๆ ในครัว เหตุผลที่ต้องมีเชฟหลายคนแบบนี้ก็เพราะที่ร้านอยากให้เชฟแต่ละคนได้ทำงานที่ตัวเองถนัดที่สุดเพื่อให้อาหารแต่ละจานออกมาดีที่สุด

เมนูแนะนำอันดับหนึ่งก็ต้องเป็น โจ๊กหมูกับเครื่องใน (300 บาท) โจ๊กเนื้อเนียนใส่หมูเค็ม ลูกชิ้นหมู และตับหมู ลืมภาพโจ๊กที่โปะเครื่องมาบนโจ๊กไปได้เลย เพราะที่นี่จะเคี่ยวทุกอย่างรวมกันก่อนเสิร์ฟ บะหมี่แห้งเกี๊ยวกุ้ง (260 บาท) บะหมี่สไตล์ฮ่องกง เส้นเล็ก เคี้ยวกรุบ และมีกลิ่นหอมที่ทางร้านทำเส้นเองโดยใช้แป้งนำเข้าจากฮ่องกง เสิร์ฟโดยวางทับเกี๊ยวกุ้งเพื่อใช้ความร้อนของบะหมี่อบให้เกี๊ยวอุ่นและไม่แห้ง ก๋วยเตี๋ยวหลอดปาท่องโก๋ (180 บาท) ปาท่องโก๋ตัวยาวหุ้มด้วยแผ่นก๋วยเตี๋ยวหลอดแป้งบาง เหนียวนุ่ม ราดซอสสูตรของทางร้าน ถ้าจะให้อร่อยต้องรีบกินตอนที่ปาท่องโก๋ยังกรอบๆ ก๋วยเตี๋ยวหลอดผัดซอสเอ็กซ์โอ (280 บาท) แผ่นก๋วยเตี๋ยวหลอด ม้วนเป็นแท่ง หน้าตาคล้ายต็อกบกกี ผัดกับซอสเอ็กซ์โอเพิ่มรสชาติและความเผ็ดร้อนนิดหน่อย

ผัดเปรี้ยวหวานกุ้ง (380 บาท) กุ้งตัวโตๆ เนื้อแน่นๆ ผัดกับพริกหวานและใช้พีชแทนสับปะรดเพราะให้รสหวานที่ไม่โดดและมีกลิ่นหอม บาร์บีคิว 3 อย่าง (480 บาท) หรือ 2 อย่าง (420 บาท) มีให้เลือกทั้งเป็ดย่าง ไก่ซีอิ๊ว หมูแดง หมูกรอบ แต่ละอย่างผ่านกรรมวิธีการปรุงที่พิถีพิถัน อย่างเป็ดย่างก็ต้องผ่านห้องเป่าเป็ดของที่ร้านเพื่อให้หนังเป็ดกรอบ หมูแดงถูกนำไปหมักกับเหล้าจีน มีความชุ่มฉ่ำ หอมกลิ่นสมุนไพรจีนอ่อนๆ บะหมี่กรอบราดหน้าหมูเส้น (330 บาท) คล้ายๆ ราดหน้าหมี่กรอบ แต่ใช้บะหมี่สไตล์ฮ่องกงแทน เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทางร้านแนะนำว่าต้องรีบกินตอนที่บะหมี่ยังกรอบๆ ถึงจะอร่อย

นอกจากนั้นก็ยังมีเมนูติ่มซำที่น่าลองอีกหลายรายการ อาทิ ฮะเก๋า ซาลาเปาไส้หมูแดง ซาลาเปาไส้ไข่เค็มลาวา เกี๊ยวผักปวยเล้ง ม่าไลโกว รวมถึงเมนูที่เราชอบที่สุดอย่าง ห่ามโส่ยโกะ (120 บาท) ขนมทอดที่ทำจากแป้งข้าวเหนียว กรอบนอกนุ่มใน สอดไส้กุ้งรสกลมกล่อม Tasty Congee & Noodle Wantun มี 2 สาขา สาขาแรกอยู่ที่ ชั้น G สยามพารากอน โซน Gourmet Garden เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 11.30-21.00 น. และอีกหนึ่งสาขาที่ปากซอยทองหล่อ 21 เปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00-22.00 น.

 

บทความแนะนำ